เครื่องผลิตน้ำแข็งทำงานไม่ทันต่อความต้องการ ควรทำอย่างไรดี

สาเหตุที่ทำให้เครื่องผลิตน้ำแข็งทำงานช้าลง

หลังจากที่ใช้เครื่องผลิตน้ำแข็งไปได้สักระยะ ผู้ใช้อาจพบว่าเครื่องมีการผลิตน้ำแข็งที่ช้าลง จริง ๆ แล้วมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เป็นเช่นนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้เครื่องผลิตน้ำแข็งต้องทำงานหนักขึ้น และผลิตได้ช้าลง นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกหลายประการ บทความนี้จะมาชี้แนวทางวิธีการตรวจสอบปัญหาดังกล่าว รวมถึงวิธีแก้ไข เพื่อให้คุณสามารถใช้เครื่องทำน้ำแข็งได้เต็มประสิทธิภาพกัน

เครื่องผลิตน้ำแข็งทำงานช้า เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง

1. มีสิ่งสกปรกตกค้าง
   เมื่อใช้เครื่องผลิตน้ำแข็งไปสักระยะ ตะกอนน้ำ เศษฝุ่น หรือสิ่งสกปรกอาจไปเกาะอยู่ตามส่วนประกอบของเครื่องทำน้ำแข็ง เช่น ตัวกรองน้ำ วาล์วทางเข้า หรือแม่พิมพ์น้ำแข็ง สิ่งสกปรกเหล่านี้จะไปขัดขวางประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้เครื่องทำงานช้าลง
2. แรงดันน้ำต่ำ
   หากการจ่ายน้ำไปยังเครื่องผลิตน้ำแข็งถูกจำกัดหรือแรงดันน้ำต่ำ จะส่งผลต่ออัตราการผลิตน้ำแข็ง
3. อุปกรณ์เสียหาย
   อุปกรณ์ภายในที่เสียหายและทำงานผิดปกติ อาจทำให้เครื่องผลิตน้ำแข็งช้าได้เช่นกัน เช่น วาล์วน้ำเข้าผิดพลาด เทอร์โมสตัทเครื่องทำน้ำแข็ง หรือมอเตอร์

วิธีแก้ปัญหาเครื่องผลิตน้ำแข็งทำงานไม่ทันใจ

1. ตรวจสอบอุณหภูมิของเครื่องผลิตน้ำแข็ง
   ตรวจสอบว่าอุณหภูมิช่องแช่แข็งถูกตั้งค่าเป็นการตั้งค่าที่แนะนำ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 0°F ถึง 5°F (-18°C ถึง -15°C) ปรับอุณหภูมิลดลงหากจำเป็นเพื่อให้เครื่องสามารถผลิตน้ำแข็งได้รวดเร็วขึ้น
   
   
2. ทำความสะอาดเครื่องผลิตน้ำแข็ง
   ให้ทำความสะอาดเครื่องทำน้ำแข็ง และนำน้ำแข็งที่สะสมอยู่ภายในออกมา เพราะน้ำแข็งที่ค้างอยู่ภายในก็มีส่วนที่ทำให้การผลิตน้ำแข็งช้าลง นอกจากนี้ยังมีฝุ่นผง ตะกอนน้ำที่แข็งตัว เศษต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนมากับน้ำอีกด้วย
   
   ผู้ติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติจึงควรทำความสะอาดตัวเครื่องอยู่เสมอโดยการเทน้ำแข็งเก่าออก ถอดส่วนประกอบภายในและภายนอกเครื่องผลิตน้ำแข็งมาทำความสะอาด สำหรับตัวถังภายนอกสามารถใช้ผ้าสะอาดชุบสบู่เหลวสูตรอ่อนโยนหรือน้ำเปล่าในการทำความสะอาดได้ แต่สำหรับตัวถังภายในควรใช้เฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้น และใช้แปรงหรือฟองน้ำทำความสะอาดภายในและส่วนประกอบต่าง ๆ ล้างจนคราบตะกรันหลุดออกและไม่มีเมือกติดอยู่ ประกอบกับเข้าที่เดิม เสียบปลั๊กและปล่อยให้เครื่องผลิตน้ำแข็งสองสามชุดเพื่อล้างสิ่งตกค้างออกก่อนใช้งานจริง
   
   
3. เปลี่ยนไส้กรองน้ำ
   หากเครื่องทำน้ำแข็งของคุณมีตัวกรองน้ำ ให้เปลี่ยนเป็นประจำตามคำแนะนำของผู้ผลิต ไส้กรองที่อุดตันหรือเก่าสามารถขัดขวางการไหลของน้ำไปยังเครื่องทำน้ำแข็ง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน
   
   
4. ตรวจสอบการจ่ายน้ำ
   ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เติมน้ำลงไปในท่อ และเชื่อมต่อแหล่งจ่ายน้ำไปยังเครื่องผลิตน้ำแข็งและให้แรงดันน้ำเพียงพอ หากทางเดินน้ำถูกกีดขวาง หรือความดันต่ำจะทำให้การผลิตน้ำแข็งช้าลง ควรตรวจสอบการหักงอในท่อน้ำและตรวจสอบให้แน่ใจว่าวาล์วน้ำเข้าเปิดจนสุด
   
   
5. หลีกเลี่ยงการเปิดปิดฝาเครื่องผลิตน้ำแข็งบ่อย ๆ
   เครื่องผลิตน้ำแข็งมีฝาปิดเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในช่องเก็บน้ำแข็งไว้ได้ ส่งผลให้สามารถผลิตน้ำแข็งได้ในปริมาณที่เหมาะสม หากเปิดฝาเครื่องผลิตน้ำแข็งถี่เกินไปหรือเปิดทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน อากาศร้อนที่เข้าไปในเครื่องจะทำให้อุณหภูมิในเครื่องสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้กระบวนการทำน้ำแข็งช้าลงได้

หากคุณลองทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว แต่เครื่องทำน้ำแข็งยังคงทำงานช้า อาจต้องมีการตรวจสอบและซ่อมแซมโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การทำน้ำแข็งมีปริมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ภายใน ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการทำความสะอาดเครื่องผลิตน้ำแข็งเป็นประจำทุก ๆ สามถึงหกเดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยพยายามไม่ทิ้งน้ำแข็งค้างไว้ในเครื่องนาน ๆ เมื่อไม่ใช้งาน และใช้น้ำแข็งเป็นประจำ ตรวจสอบอุปกรณ์ภายใน และเช็กอุณหภูมิเมื่อรู้สึกว่าน้ำแข็งผลิตได้ช้าลง

หากคุณสนใจต้องการมีเครื่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติไว้ใช้งาน เพื่อความประหยัด คุ้มค่า และเสริมภาพลักษณ์ให้ธุรกิจ ขอแนะนำ HAPPYCOOL ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องทำน้ำแข็งอัตโนมัติ เครื่องผลิตน้ำแข็งหลอด เครื่องทำน้ำแข็งร้านกาแฟ เครื่องทำน้ำแข็งขนาดเล็ก สะอาด ปลอดภัย จบทุกปัญหาเรื่องน้ำแข็ง มีบริการหลังการขายไม่ทิ้งลูกค้าทั่วประเทศ