ระบบไฟฟ้ากับการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็ง

ใช้งานเครื่องทำน้ำแข็งอย่างปลอดภัย ด้วยระบบไฟฟ้าที่เหมาะสม

ในการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งซึ่งถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ย่อมต้องมีความแตกต่างกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญที่เราควรรู้ก่อนการติดตั้งทุกครั้งคือ การทำความเข้าใจถึงระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมจะใช้กับเครื่องทำน้ำแข็ง เพราะนอกจากจะช่วยให้เราสามารถใช้งานเครื่องทำน้ำแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่สะดุดแล้ว ยังช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจากความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

ระบบไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำแข็งอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับเครื่องทำน้ำแข็งนั้นมีสองปัจจัยสำคัญอยู่ด้วยกัน 2 ประการที่จะส่งผลให้เครื่องทำน้ำแข็งสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม ประกอบไปด้วยน้ำและไฟฟ้า โดยในครั้งนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึงระบบไฟฟ้าที่เครื่องทำน้ำแข็งต้องการเป็นหลัก

ส่วนใหญ่แล้วนั้นเครื่องทำน้ำแข็งแต่ละรุ่นจะมีความต้องการของระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นเครื่องทำน้ำแข็งที่เหมาะกับร้านกาแฟขนาดเล็ก จะมีกำลังไฟที่ต้องการอยู่ที่ 260w (220V/50Hz) ในขณะที่เครื่องทำน้ำแข็งสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่อาจจะต้องการกำลังไฟได้ถึง 1900w (220/50Hz)

สิ่งสำคัญในการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งเหล่านี้คือ การสังเกตความต้องการปริมาณกำลังไฟที่ต้องการ เพราะหากกำลังไฟที่เราใช้นั้นไม่เพียงพออาจจะส่งผลให้เครื่องทำน้ำแข็งของเราไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควร ผลิตน้ำแข็งได้ช้าไม่ตรงกับประสิทธิภาพที่โรงงานตั้งไว้ ไปจนถึงไม่สามารถใช้งานเครื่องทำน้ำแข็งได้เลยทีเดียว

ในขณะเดียวกันหากเรากำลังไฟของเรานั้นมากกว่าปริมาณที่เครื่องทำน้ำแข็งต้องการ อาจจะส่งผลให้วงจรไฟฟ้าภายในเครื่องนั้นเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมให้กับเครื่องทำน้ำแข็ง จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ

ออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็ง

การออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมต่อการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็ง ประกอบไปด้วยหลายปัจจัย แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือผู้ติดตั้งควรมีความเชี่ยวชาญในด้านระบบไฟฟ้าค่อนข้างสูง หากผู้ที่สนใจติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งไม่มีความรู้เฉพาะทางเรื่องระบบไฟฟ้า ควรใช้บริการปรึกษากับผู้ให้บริการจำหน่ายและติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งได้โดยตรง เพียงเท่านี้เรากสามารถมั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าที่เราใช้งานนั้นเหมาะสมกับการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งจริง ๆ

การออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมส่วนใหญ่ จะประกอบไปด้วยเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

• ใช้แรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสม
  แรงดันไฟฟ้า หรือ Voltage (V) จะปรากฏอยู่ในคำอธิบายความต้องการไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำแข็งแต่ละรุ่นอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติทั่วไปในประเทศไทยนั้นจะเป็นระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟส หรือ ไฟฟ้าที่ใช้งานตามบ้านเรือนทั่วไป จะมอบแรงดันไฟฟ้าให้อยู่ที่ 220-230V และมีความถี่ที่ 50Hz ที่เหมาะกับการใช้งานเครื่องทำน้ำแข็งส่วนใหญ่ที่ต้องการแรงดันไฟฟ้าและความถี่ที่ 220V/50Hz แต่ถ้าหากเครื่องทำน้ำแข็งของเราต้องการแรงดันไฟฟ้าและความถี่ที่ 110V/60hz การจะใช้งานให้เหมาะสมก็จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์ที่เรียกว่า ตัวแปลง (Inverter) ในการแปลงแรงดันไฟฟ้าและความถี่ให้เหมาะกับเครื่องทำน้ำแข็งของเรานั่นเอง

• ควรติดตั้งเบรกเกอร์ควบคุมไฟฟ้า
  เบรกเกอร์ หรือ Circuit Breaker เป็นสวิตช์ไฟฟ้าอัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันวงจรไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดจากความเสียหายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน อย่างเช่นการโหลดเกินของไฟฟ้า ไฟฟ้าลัดวงจร โดยจะทำหน้าที่ในการตัดกระแสไฟฟ้าหลังจากที่เบรกเกอร์ตรวจพบความผิดปกติในระบบไฟฟ้านั่นเองเครื่องทำน้ำแข็งที่ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ หากเรามีการใช้งานระบบไฟฟ้าที่เกินกว่าปกติ หรือเกิดอุบัติเหตุทางด้านระบบไฟฟ้าเกิดขึ้น การติดตั้งเบรกเกอร์จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะช่วยให้เครื่องทำน้ำแข็งของเราไม่เกิดความเสียหาย และยังช่วยลดโอกาสในการเกิดความเสี่ยงทางด้านอัคคีภัยได้เป็นอย่างดี

• เลือกใช้งานสายไฟที่ถูกชนิด
  เนื่องจากชนิดของสายไฟในปัจจุบันนั้นเราสามารถแบ่งได้ออกหลายชนิดด้วยกัน โดยแต่ละชนิดนั้นจะมีคุณสมบัติการใช้งานที่เหมาะสมแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของวัสดุ ความแข็งแรง การรองรับกระแสไฟฟ้า ไปจนถึงอุณหภูมิ เราจึงควรเลือกชนิดของสายไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน และต้องมีขนาดความสามารถในการทน ตามความต้องการของเครื่องทำน้ำแข็งแต่ละรุ่น แต่ละขนาดอีกนั่นเองโดยปกติแล้วในการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งนั้น ทางผู้ให้บริการจะมีสายไฟที่เหมาะสมกับการใช้งานติดมาอยู่แล้ว เราจึงไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเดินสายไฟจากเบรกเกอร์ของเรา เราควรจะเดินในท่อสายไฟอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสายไฟของเราในระหว่างใช้งาน

คำแนะนำความปลอดภัยในการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็ง

ข้อปฏิบัติในการติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็ง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงหรือลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้งานในระหว่างใช้เครื่องทำน้ำแข็ง สามารถทำได้หลายข้อด้วยกัน ซึ่งคำแนะนำที่เราควรปฏิบัติทุกครั้งมีดังนี้

• ก่อนใช้งานทุกครั้งตรวจสอบให้แน่ใจว่าแรงดันไฟฟ้าของเราตรงกับที่แสดงบนแผ่นป้ายเครื่องทำน้ำแข็ง
• ควรหลีกเลี่ยงการใช้สายไฟต่อเสียบปลั๊กเครื่องทำน้ำแข็ง อาจจะส่งผลให้เกิดความร้อนสูงสะสมและเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยตามมา
• หากสายไฟเกิดการชำรุด เสียหาย ควรเปลี่ยนโดยศูนย์ของผู้ให้บริการโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
• สายไฟของเครื่องทำน้ำแข็งไม่ควรอยู่ในจุดที่เสี่ยงต่อการสัมผัสได้ง่าย ควรวางให้ห่างไกลจุดที่เด็กอาจจะเอื้อมถึงหรือดึงได้ และไม่ควรพาดสายไฟผ่านโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ต่าง ๆ
• หลีกเลี่ยงการถอด ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าภายในเครื่องทำน้ำแข็งโดยไม่มีผู้เชี่ยวชาญ
• หลีกเลี่ยงการถอด หรือ เสียบปลั๊กเครื่องทำน้ำแข็งในขณะที่มือยังเปียก

เราจะเห็นได้ว่าระบบไฟฟ้าในเครื่องทำน้ำแข็งนั้นจัดเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากระบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพจะสามารถส่งผลให้การใช้งานเครื่องทำน้ำแข็งของเรานั้นมีคุณภาพตามไปด้วย สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ผลิตน้ำแข็งได้ในปริมาณที่เครื่องทำน้ำแข็งกำหนด และยังช่วยให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาที่จะตามมาภายหลังการใช้งานอีกด้วยนั่นเอง

สำหรับท่านใดที่กำลังไม่แน่ใจว่ากิจการของท่านนั้นมีระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานเครื่องทำน้ำแข็งหรือไม่ การเลือกใช้บริการปรึกษากับผู้ให้บริการคุณภาพอย่าง HAPPYCOOL ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม ด้วยความเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องทำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด ด้วยนวัตกรรมเยอรมัน และเรายังมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านอุปกรณ์ทำความเย็นและเครื่องผลิตน้ำแข็งโดยเฉพาะ สามารถให้คำปรึกษาเรื่องระบบไฟฟ้ากับผู้ที่สนใจติดตั้งเครื่องทำน้ำแข็งได้อย่างตรงจุด พึงพอใจในทุกบริการด้วยมาตรฐานทุกขั้นตอนการทำงานอย่างแน่นอน

สนใจสั่งซื้อเครื่องทำน้ำแข็ง HAPPYCOOL

Tel : 082-498-2414
Line ID: @happycool
Facebook: Happy Cool
Email: Info@Planetx.ltd