ice-maker.happycool-th.com

ลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งดีไหม? เจาะลึกต้นทุน–กำไรสำหรับ SME

ลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งดีไหม? เจาะลึกต้นทุน–กำไรสำหรับ SME

แนะนำการเข้าใจต้นทุนในการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งว่าเหมาะกับธุรกิจ หรือ ไม่

ในปี 2025 ที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวหลังจากวิกฤตโควิด-19 และ ปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลก การทำธุรกิจขนาดกลาง และ ขนาดย่อม (SME) ได้กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูง เพราะลงทุนต่ำ กำไรเร็ว และ ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของผู้บริโภคได้ อีกหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจ และ มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ ธุรกิจผลิต และ ขายน้ำแข็ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิสูง และ ความต้องการน้ำแข็งเพิ่มขึ้น 30-50% น้ำแข็งไม่ใช่แค่สิ่งจำเป็นสำหรับร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือ ตลาดสด แต่ยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารทะเล การแพทย์ และ การส่งออกผลไม้แช่เย็น ธุรกิจนี้มีศักยภาพสูงเพราะต้นทุนต่ำ กำไรต่อหน่วยสูง และ ตลาดในไทยมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี แต่คำถามที่ผู้ประกอบการ SME หลายๆคนสงสัยคือ “ลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งดีไหม?” บทความนี้เราจะพาคุณมาวิเคราะห์เจาะลึกในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นทุน ค่าใช้จ่าย การคำนวณกำไร ไปจนถึงปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ

 

ภาพรวมตลาดน้ำแข็งในไทย: โอกาสทองสำหรับ SME ในการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็ง

ตลาดน้ำแข็งในไทยได้มีขนาดใหญ่ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี และ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10-15% ในปี 2025 จากความต้องการในภาคบริการอาหาร และ เครื่องดื่มที่กำลังฟื้นตัวหลังโควิด น้ำแข็งได้เป็นสินค้าที่ขายได้ตลอดปี และ ยอดขายพุ่งขึ้นในฤดูร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม) ซึ่งอาจเพิ่ม 2-3 เท่า หลักการทำธุรกิจ คือ ผลิตเองเพื่อลดต้นทุนจากการซื้อจากโรงใหญ่และ ขายซื้อในชุมชน

โดยสำหรับ SME การลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งนี้จะเหมาะกว่า เพราะลงทุนไม่สูงมาก และ ไม่ต้องการทักษะสูง โดยมีโอกาสเติบโตจาก e-commerce ที่ต้องการน้ำแข็งสำหรับส่งอาหารแช่เย็น และ ร้านกาแฟที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างเหมาะสม

 

ต้นทุนการลงทุนเริ่มต้น: ลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งเท่าไหร่ถึงคุ้มค่า?

เบื้องต้นในการเข้าใจต้นทุนเริ่มต้นในการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งสำหรับ SME นั้นขึ้นกับขนาด และประเภทเครื่อง โดยเครื่องขนาดเล็กสำหรับเริ่มต้น (ผลิต 50-100 กก./วัน) อาจมีราคา 20,000-50,000 บาท หากเป็นสำหรับเครื่องทำน้ำแข็งหลอด 500 กก./วัน จะมีราคาที่สูงขึ้นมา ส่วน เครื่องทำน้ำแข็งยูนิตขนาดกลาง และ เครื่องใหญ่ จะมีราคาตั้งแต่หลักหมื่น ถึง หลายแสน

โดยนอกจากนี้เครื่องผลิตน้ำแข็ง ต้องคำนวณค่าติดตั้ง 20,000-50,000 บาท (รวมสายไฟ และ ท่อน้ำ) ค่าเครื่องตีเพิ่ม 50,000-100,000 บาท และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆซึ่งอาจแปรผันตามความต้องการใช้งาน

 

ต้นทุนการดำเนินงาน: ค่าไฟ น้ำ แรงงาน และ อื่นๆ

ต้นทุนค่าดำเนินงาน คือ ปัจจัยที่กำหนดความยั่งยืนของการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็ง โดยต้นทุนหลักคือ ค่าไฟ และ น้ำที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็ง 1 กก. ค่าไฟที่ใช้ประมาณ 0.5-0.7 บาท/กก. (เครื่องใช้ไฟ 1-2 kWh/กก.) และ ค่าน้ำ 0.2-0.3 บาท/กก. รวมต้นทุน 0.7-1.0 บาท/กก. สำหรับธุรกิจ SME ผลิตที่ต้องการน้ำแข็ง 200 กก./วัน ค่าไฟ-น้ำ จะตกเดือนละ 4,000-6,000 บาท เลยทีเดียว

อีกทั้งยังมีค่าแรงงาน 10,000-20,000 บาท/เดือน สำหรับ 1-2 คน (ตักน้ำแข็ง และ ส่ง) รวมถึงค่าบำรุงรักษาเครื่องที่ 1,000-2,000 บาท/เดือน (เปลี่ยนกรองน้ำ) ซึ่งหากต้องรวมต้นทุนดำเนินงานจะตกเดือนละ 20,000-40,000 บาท สำหรับผลิตน้ำแข็ง 6,000 กก./เดือน เลยทีเดียว

 

การคำนวณกำไร และ ROI: คืนทุนในการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งเร็วแค่ไหน?

หากเป็นธุรกิจที่ต้องการขายน้ำแข็งนั้นจะมีกำไรจากการขายน้ำแข็งสูงเพราะ ราคาขายปลีกอยู่ที่ 3-5 บาท/กก. โดยมีต้นทุนที่ 0.7-1.0 บาท/กก. กำไร 2-4 บาท/กก. หรือ 200-400% สำหรับธุรกิจ SME ที่ต้องผลิตน้ำแข็ง 200 กก./วัน (6,000 กก./เดือน) หากขายหมด จะมีกำไร 12,000-24,000 บาท/เดือน โดยหักค่าแรง และ ค่าอื่นๆแล้ว จะเหลือกำไรสุทธิที่ 8,000-15,000 บาท/เดือน

ซึ่ง ROI คืนทุนจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6-12 เดือน สำหรับลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งราคา 300,000 บาท ซึ่งกำไรจะตกเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งอาจใช้เวลาคืนทุน 30 เดือน แต่ถ้าขายดีมากๆก็จะคืนทุนเร็วขึ้น

 

ข้อควรระวัง และ เคล็ดลับสำหรับ SME ในการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็ง

ข้อควรระวังในการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็ง คือ การเลือกเครื่องทำน้ำแข็งที่มีคุณภาพดีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการซ่อมบ่อย และ ควรศึกษากฎหมายโรงงานน้ำแข็งหากต้องการทำธุรกิจประเภทนี้ โดยเคล็ดลับ คือ ควรเริ่มที่เครื่องเล็กๆ โดยเน้นตลาดชุมชน และ ใช้โซเชียลขายออนไลน์ และ ต้องตรวจสอบคุณภาพน้ำแข็งให้สะอาดเพื่อสร้างแบรนด์ในระยะยาวด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะพบว่าการลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งสำหรับ SME มีทั้งข้อดี และ ข้อควรระวัง หากร้าน หรือ ธุรกิจของคุณมีความต้องการใช้น้ำแข็งสูงต่อวัน การผลิตเองย่อมช่วยลดต้นทุนได้มาก กว่า และ ยังมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มจากการขายน้ำแข็ง แต่หากเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ใช้น้ำแข็งไม่มาก อาจเลือกการซื้อน้ำแข็งจากซัพพลายเออร์จะคุ้มค่ากว่า ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนควรอิงจาก ปริมาณการใช้งานจริง งบประมาณ และ แผนธุรกิจ เพื่อให้การลงทุนนี้สร้างกำไรได้อย่างแท้จริง ดังนั้นหากสนใจลงทุนซื้อเครื่องผลิตน้ำแข็งที่มีคุณภาพเราขอแนะนำ HAPPYCOOL ซึ่งเป็นผู้จำหน่าย เครื่องทำน้ำแข็งที่มีคุณภาพ เรามีโรงงาน และ มีทีมงานในการประกอบเครื่องทำน้ำแข็งของตัวเอง และ มีทีมงานคุณภาพให้บริการทั่วประเทศ พร้อมที่จะให้บริการงานติดตั้งจึงทำให้ ลูกค้าหมดกังวล หากเครื่องมีปัญหา นอกจากนี้เรามีการใส่ใจในเรื่องของการให้การบริการหลังการขาย ซึ่งเรามีทีม Call Center และ ทีมเซอร์วิสคอยบริการลูกค้า 24 ชม. และ การรับประกันตัวเครื่องทำน้ำแข็งสูงสุดให้กับลูกค้านานถึง 10 ปี!!

 

ติดต่อสอบถาม

HAPPYCOOL
456/362 Kanchanapisek Road,Tarang, Bangkean, BKK 10220
Tel : 02-0963462
Line ID: @happycool
Facebook: Happy Cool
Email: Info@Planetx.ltd 

http://line.me/ti/p/@happycool https://www.facebook.com/HappycoolBKK

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *